วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2563
วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2562
ใบงานที่ 3 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2560
https://www.isranews.org/isranews/51376-amnesty-51376.html |
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คืออะไร
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือพระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ว่านี้ก็เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมาร์ตโฟน รวมถึงระบบต่างๆ ที่ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกัน ควบคุมการกระทำผิดที่จะเกิดขึ้นได้จากการใช้คอมพิวเตอร์ หากใครกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นี้ ก็จะต้องได้รับการลงโทษตามที่พ.ร.บ.กำหนดไว้
8 เรื่องที่ห้ามทำ ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
1. เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ชอบ (มาตรา 5-8)
✦หากเข้าไปเจาะข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ของคนอื่น โดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้อนุญาต การปล่อยไวรัส มัลแวร์เข้าคอมพิวเตอร์คนอื่น เพื่อเจาะข้อมูลบางอย่าง แฮคเกอร์ ที่เข้าไปขโมยข้อมูลของคนอื่นมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
2. แก้ไข ดัดแปลง หรือทำให้ข้อมูลผู้อื่นเสียหาย (มาตรา 9-10)
✏ในข้อนี้จะรวมหมายถึงการทำให้ข้อมูลเสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือจะเป็นในกรณีที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อย่างเช่น กรณีของกลุ่มคนที่ไม่ชอบใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แล้วต่อต้านด้วยการเข้าไปขัดขวาง ทำร้ายระบบเว็บไซต์ของฝ่ายตรงข้าม ให้บุคคลอื่นๆ ใช้งานไม่ได้ ก็มีความผิดค่ะ
3. ส่งข้อมูลหรืออีเมลก่อกวนผู้อื่น หรือส่งอีเมลสแปม (มาตรา 11)
✈ข้อนี้ก็เข้ากับประเด็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ หรือนักการตลาดที่ส่งอีเมลขายของที่ลูกค้าไม่ยินดีที่จะรับ หรือที่รู้จักกันว่า อีเมลสแปม หรือแม้แต่การฝากร้านตาม Facebook กับ IG ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำและยังรวมถึงคนที่ขโมย Database ลูกค้าจากคนอื่น แล้วส่งอีเมลขายของตัวเอง
4. เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลทางด้านความมั่นคงโดยมิชอบ (มาตรา 12)
✒โพสต์เกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายหรือความมั่นคงต่อประเทศ หรือโพสต์ที่เป็นการก่อกวน หรือการก่อการร้ายขึ้น ก็มีความผิดค่ะ เพราะมาตรา 12 ได้บอกไว้ว่าการเข้าถึงระบบหรือข้อมูลทางด้านความมั่งคงโดยมิชอบ หรือการโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ที่เข่าข่ายข้อมูลเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือทำให้ประชาชนเกิดอาการตื่นตระหนก
5. จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด (มาตรา 13)
➥กรณีทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 5-11 (หรือข้อ 1-3 ในบทความนี้) ต้องจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีผู้นำไปใช้กระทำความผิด ผู้จำหน่ายหรือผู้เผยแพร่ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย
6. นำข้อมูลที่ผิดพ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (มาตรา 14)
✦หากเข้าไปเจาะข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ของคนอื่น โดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้อนุญาต การปล่อยไวรัส มัลแวร์เข้าคอมพิวเตอร์คนอื่น เพื่อเจาะข้อมูลบางอย่าง แฮคเกอร์ ที่เข้าไปขโมยข้อมูลของคนอื่นมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
2. แก้ไข ดัดแปลง หรือทำให้ข้อมูลผู้อื่นเสียหาย (มาตรา 9-10)
✏ในข้อนี้จะรวมหมายถึงการทำให้ข้อมูลเสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือจะเป็นในกรณีที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อย่างเช่น กรณีของกลุ่มคนที่ไม่ชอบใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แล้วต่อต้านด้วยการเข้าไปขัดขวาง ทำร้ายระบบเว็บไซต์ของฝ่ายตรงข้าม ให้บุคคลอื่นๆ ใช้งานไม่ได้ ก็มีความผิดค่ะ
3. ส่งข้อมูลหรืออีเมลก่อกวนผู้อื่น หรือส่งอีเมลสแปม (มาตรา 11)
✈ข้อนี้ก็เข้ากับประเด็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ หรือนักการตลาดที่ส่งอีเมลขายของที่ลูกค้าไม่ยินดีที่จะรับ หรือที่รู้จักกันว่า อีเมลสแปม หรือแม้แต่การฝากร้านตาม Facebook กับ IG ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำและยังรวมถึงคนที่ขโมย Database ลูกค้าจากคนอื่น แล้วส่งอีเมลขายของตัวเอง
4. เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลทางด้านความมั่นคงโดยมิชอบ (มาตรา 12)
✒โพสต์เกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายหรือความมั่นคงต่อประเทศ หรือโพสต์ที่เป็นการก่อกวน หรือการก่อการร้ายขึ้น ก็มีความผิดค่ะ เพราะมาตรา 12 ได้บอกไว้ว่าการเข้าถึงระบบหรือข้อมูลทางด้านความมั่งคงโดยมิชอบ หรือการโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ที่เข่าข่ายข้อมูลเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือทำให้ประชาชนเกิดอาการตื่นตระหนก
5. จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด (มาตรา 13)
➥กรณีทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 5-11 (หรือข้อ 1-3 ในบทความนี้) ต้องจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีผู้นำไปใช้กระทำความผิด ผู้จำหน่ายหรือผู้เผยแพร่ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย
6. นำข้อมูลที่ผิดพ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (มาตรา 14)
➜ในความผิดมาตรา 14 จะระบุโทษการนำข้อมูลที่เปิดพ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ข้อความผิดด้วยกันคือ
- โพสต์ข้อมูลปลอม ทุจริต หลอกลวง (อย่างเช่น ข่าวปลอม โฆษณาธุรกิจลูกโซ่ที่หลอกลวงเอาเงินลูกค้า และไม่มีการส่งมอบของให้จริงๆ เป็นต้น)
- โพสต์ข้อมูลความผิดเกี่ยวกับความมั่งคงปลอดภัย
- โพสต์ข้อมูลความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ก่อการร้าย
- โพสต์ข้อมูลลามก ที่ประชาชนเข้าถึงได้
- เผยแพร่ ส่งต่อข้อมูล ที่รู้แล้วว่าผิด
7. ให้ความร่วมมือ ยินยอม รู้เห็นเป็นใจกับผู้ร่วมกระทำความผิด (มาตรา 15)
➼กรณีนี้ถ้าเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็เช่น เพจต่างๆ ที่เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็น แล้วมีความคิดเห็นที่มีเนื้อหาผิดกฎหมายก็มีความผิดค่ะ แต่ถ้าหากแอดมินเพจตรวจสอบแล้วพบเจอ และลบออก จะถือว่าเป็นผู้ที่พ้นความผิด
8. ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงภาพ (มาตรา 16)
⤗ความผิดข้อนี้ แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักคือ
• การโพสต์ภาพของผู้อื่นที่เกิดจากการสร้าง ตัดต่อ หรือดัดแปลง ที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อย่างเช่นกรณีที่เอาภาพดาราไปตัดต่อ และตกแต่งเรื่องขึ้นมา จนทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย ก็ถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
• การโพสต์ภาพผู้เสียชีวิต หากเป็นการโพสต์ที่ทำให้บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย
กรณีศึกษาการทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560
ใช้นามสกุล "จันทร์โอชา" เปิดเฟซขายนาฬิกา ที่แท้โจร ปอท.บุกรวบ
กรณีศึกษาการทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560
ใช้นามสกุล "จันทร์โอชา" เปิดเฟซขายนาฬิกา ที่แท้โจร ปอท.บุกรวบ
ใช้นามสกุล "จันทร์โอชา" เปิดเฟซขายนาฬิกา ที่แท้โจร ปอท.บุกรวบ
กรณีศึกษาการทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560
ใช้นามสกุล "จันทร์โอชา" เปิดเฟซขายนาฬิกา ที่แท้โจร ปอท.บุกรวบ
เวลา 10.00 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ร่วมกับ พ.ต.อ.ขวัญชัย พัฒรักษ์ ผกก.3 บก.ปอท.
แถลงการจับกุมนายทัดภูมิ หรือ นัท ไชยกุลวัฒนา อายุ 23 ปี หลังใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Surinya JanOcha” หลอกขายสินค้าออนไลน์โดยใช้นามสกุลของนายกรัฐมนตรีมาแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีเหยื่อหลงเชื่อสั่งสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้าจริงเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังมีผู้เสียหายแจ้งร้องทุกข์กับ ปอท.ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Surinya JanOcha หรือ สุรินยา จันทร์โอชา ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาววัยรุ่น ได้หลอกขายนาฬิกามือสองตามโพสต์การซื้อขาย โดยมีราคาเรือนละ 2,000-3,000 บาท ถูกกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งมีเหยื่อหลงเชื่อกว่าร้อยราย เมื่อสั่งซื้อโอนเงินเสร็จก็จะบล็อกตัดขาดช่องทางการติดต่อ
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อมา เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอท.สืบทราบเบาะแสที่อยู่ผู้ต้องหา พบว่าพักอาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.เลย จึงนำกำลังจับกุมได้ที่บ้านพัก จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้นำนามสกุลนายกรัฐมนตรี มาใช้หลอกขายของ โดยมีเจตนาให้เหยื่อเข้าใจว่า มีความเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอ้างถึงว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ซึ่งเหยื่อเองก็ไม่ได้สอบถามอะไร
“ขอฝากเตือนประชาชนว่า การซื้อของนั้นอย่าใจร้อน ขอให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ขายจากชื่อสกุลบนเล่มบัญชีก่อน ก็จะพบข้อมูลการโกง” รอง ผบก.ปอท. กล่าว
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 ฉบับเต็ม
แถลงการจับกุมนายทัดภูมิ หรือ นัท ไชยกุลวัฒนา อายุ 23 ปี หลังใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Surinya JanOcha” หลอกขายสินค้าออนไลน์โดยใช้นามสกุลของนายกรัฐมนตรีมาแอบอ้างเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีเหยื่อหลงเชื่อสั่งสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้าจริงเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังมีผู้เสียหายแจ้งร้องทุกข์กับ ปอท.ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Surinya JanOcha หรือ สุรินยา จันทร์โอชา ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาววัยรุ่น ได้หลอกขายนาฬิกามือสองตามโพสต์การซื้อขาย โดยมีราคาเรือนละ 2,000-3,000 บาท ถูกกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งมีเหยื่อหลงเชื่อกว่าร้อยราย เมื่อสั่งซื้อโอนเงินเสร็จก็จะบล็อกตัดขาดช่องทางการติดต่อ
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อมา เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอท.สืบทราบเบาะแสที่อยู่ผู้ต้องหา พบว่าพักอาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.เลย จึงนำกำลังจับกุมได้ที่บ้านพัก จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองได้นำนามสกุลนายกรัฐมนตรี มาใช้หลอกขายของ โดยมีเจตนาให้เหยื่อเข้าใจว่า มีความเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอ้างถึงว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ซึ่งเหยื่อเองก็ไม่ได้สอบถามอะไร
“ขอฝากเตือนประชาชนว่า การซื้อของนั้นอย่าใจร้อน ขอให้ตรวจสอบข้อมูลผู้ขายจากชื่อสกุลบนเล่มบัญชีก่อน ก็จะพบข้อมูลการโกง” รอง ผบก.ปอท. กล่าว
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 ฉบับเต็ม
ใบงานที่ 4 บทความสำหรับทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ปัญหาความเลื่อมหล้ำ
ความเหลื่อมล้ํามักจะเป็นการกล่าวถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างผู้ที่มีโอกาสกับผู้ที่ขาดโอกาส ซึ่งโอกาสในที่นี้คือ โอกาสในการเข้าถึง ต่อรองและจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ในสังคม ความเหลื่อมล้ําบางครั้ง ก็เป็นเหตุ บางครั้งก็เป็นผลในตัวเอง ที่เป็นเหตุเพราะความเหลื่อมล้ําจึงทําให้เกิดความไม่เป็นธรรม หรือ เนื่องจากคนเกิดมา "ไม่เท่ากัน" จึงก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ําตามมา การพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมา สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นประชาชนมีงานทําและมีความมั่นคงในอาชีพมากขึ้น รายได้เฉลี่ยของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น ปัญหาความยากจนลดลงและประชาชนเข้าถึงบริการทางสังคมและ สาธารณูปโภคอันเป็นปัจจัยจําเป็นพื้นฐานในการดํารงชีวิตได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ความไม่เท่าเทียมกันใน โอกาสของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ โอกาสของคนในเมืองกับชนบทในการเข้าถึงบริการสาธารณะหลักที่มี คุณภาพยังมีช่องว่างมากและการเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ ในสังคมยังไม่เท่าเทียมกันซึ่งเป็นปัญหาที่สะท้อนถึงความ เหลื่อมล้ําที่เป็นป็ญหาเชิงโครงสร้างในสังคมไทยทําให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับความเดือดร้อน จากความไม่ทัดเทียมของความเติบโตทางเศรษฐกิจและความแตกตางกันในการเป็นเจ้าของทรัพยากร ส่งผล ต่อรายได้ที่แตกต่างกันมากระหว่างกลุ่มคนในสังคม อันสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมของโอกาส ในการเข้าถึง ทรัพยากรและสิทธิพื้นฐาน รวมทั้งความไม่เปคนธรรมดานอํานาจต่อรอง
สถานการณ์ความเหลื่อมล้ํา
1. ความเหลื่อมล้ําด้านรายได้หรือการกระจายรายได้ สะท้อนจากค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค
ด้านรายได้ (Gini coefficient) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในระดับ 0.48 - 0.49 และรายได้กระจุกตัวอยู่กับ
คนกลุ่มเล็ก ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรวยที่สุดร้อยละ 10 ถือครองรายได้ถึงร้อยละ 39.3 ของรายได้ทั้งหมด
ขณะที่กลุ่มคนจนที่สุดร้อยละ 10 ถือครองรายได้เพียงร้อยละ 1.6 ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น จึงทําให้ความ
แตกต่างของรายได้ระหว่างกลุ่มคนรวยที่สุดกับกลุ่มคนจนที่สุดห่างกันถึง 25.2 เท่า
2. ความเหลื่อมล้ําด้านรายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยกลุ่มประชากรร้อยละ 10 ที่มีการใช้ จ่ายสูงที่สุดมีมาตรฐานการดํารงชีวิตสูงกว่ากลุ่มประชากรร้อยละ 10 ที่มีการใช้จ่ายต่ําที่สุด ประมาณ 11.0 เท่า นอกจากนี้ ยังมีประชากร 8.4 ล้านคน (คนจน) ที่ได้รับสารอาหารและสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นสิ่งจําเป็น พื้นฐานในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อการดํารงชีวิตซึ่งมีมาตรฐานการดํารงชีวิตที่แย่ที่สุดในสังคมไทย
3. ความเหลื่อมล้ําด้านสินทรัพย์ทางการเงิน สินทรัพย์ทางการเงินกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มเล็ก ๆ โดยสะท้อนจากเงินออมในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจําธนาคารพาณิชย์ที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม คนจํานวนน้อย กล่าวคือบัญชีเงินฝากที่มีวงเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปมีเพียงประมาณร้อยละ 0.1 ของ จํานวนบัญชีทั้งหมด แต่มีวงเงินฝากสูงถึงร้อยละ 46.5 ของวงเงินฝากทั้งหมดในขณะที่บัญชีเงินฝากขนาด เล็กวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท มีถึงร้อยละ 99.9 ของจํานวนบัญชีทั้งหมด แต่มีวงเงินฝากเพียง ร้อยละ 53.5 ของวงเงินฝากทั้งหมด
4. ความเหลื่อมล้ําด้านการถือครองที่ดิน ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ําในการถือครองที่ดินสูงมาก กล่าวคือที่ดินที่มีเอกสารสิทธิกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มเล็ก ๆ โดยกลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ 20 ที่มีการถือครอง ที่ดินมากที่สุด มีสัดส่วนการถือครองที่ดินสูงกว่ากลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ 20 ที่มีการถือครองที่ดิน น้อยที่สุด คิดเป็น 325.7 เท่า โดยกลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ20 ที่ถือครองที่ดินมากที่สุด มีสัดส่วนพื้นที่ถือครอง ที่ดินสูงถึงร้อยละ 79.9 ของพื้นที่ทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ 20 ที่ถือครองที่ดินน้อยที่สุด มีสัดส่วนพื้นที่ถือครองที่ดินเพียงร้อยละ 0.3 ของพื้นที่ทั้งหมด เท่านั้น
2. ความเหลื่อมล้ําด้านรายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยกลุ่มประชากรร้อยละ 10 ที่มีการใช้ จ่ายสูงที่สุดมีมาตรฐานการดํารงชีวิตสูงกว่ากลุ่มประชากรร้อยละ 10 ที่มีการใช้จ่ายต่ําที่สุด ประมาณ 11.0 เท่า นอกจากนี้ ยังมีประชากร 8.4 ล้านคน (คนจน) ที่ได้รับสารอาหารและสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นสิ่งจําเป็น พื้นฐานในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อการดํารงชีวิตซึ่งมีมาตรฐานการดํารงชีวิตที่แย่ที่สุดในสังคมไทย
3. ความเหลื่อมล้ําด้านสินทรัพย์ทางการเงิน สินทรัพย์ทางการเงินกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มเล็ก ๆ โดยสะท้อนจากเงินออมในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจําธนาคารพาณิชย์ที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม คนจํานวนน้อย กล่าวคือบัญชีเงินฝากที่มีวงเงินเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปมีเพียงประมาณร้อยละ 0.1 ของ จํานวนบัญชีทั้งหมด แต่มีวงเงินฝากสูงถึงร้อยละ 46.5 ของวงเงินฝากทั้งหมดในขณะที่บัญชีเงินฝากขนาด เล็กวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท มีถึงร้อยละ 99.9 ของจํานวนบัญชีทั้งหมด แต่มีวงเงินฝากเพียง ร้อยละ 53.5 ของวงเงินฝากทั้งหมด
4. ความเหลื่อมล้ําด้านการถือครองที่ดิน ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ําในการถือครองที่ดินสูงมาก กล่าวคือที่ดินที่มีเอกสารสิทธิกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มเล็ก ๆ โดยกลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ 20 ที่มีการถือครอง ที่ดินมากที่สุด มีสัดส่วนการถือครองที่ดินสูงกว่ากลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ 20 ที่มีการถือครองที่ดิน น้อยที่สุด คิดเป็น 325.7 เท่า โดยกลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ20 ที่ถือครองที่ดินมากที่สุด มีสัดส่วนพื้นที่ถือครอง ที่ดินสูงถึงร้อยละ 79.9 ของพื้นที่ทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มผู้ถือครองที่ดินร้อยละ 20 ที่ถือครองที่ดินน้อยที่สุด มีสัดส่วนพื้นที่ถือครองที่ดินเพียงร้อยละ 0.3 ของพื้นที่ทั้งหมด เท่านั้น
ใบงานที่ 2 ความรู้เรื่องบล็อก
บล็อค คืออะไร??
บล็อก เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอ
ในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
เว็บค้นหาบล็อกเทคโนราที ได้อ้างไว้ว่าปัจจุบันในอินเทอร์เน็ต มีบล็อกมากกว่า 112 ล้านบล็อกทั่วโลก
ความนิยม
บล็อกได้เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันในวงการสื่อมวลชนในหลายประเทศ เนื่องจากระบบแก้ไขที่เรียบง่าย และสามารถตีพิมพ์เรื่องราวได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ในการเขียนเว็บไซต์ โดยนอกเหนือจากที่ผู้เขียนข่าวส่งผลงานให้กับทางสื่อแล้ว ยังได้มาเขียนข่าวในอีกช่องทางหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูล หรือแนวความคิด โดยการเขียนบล็อกสามารถเผยแพร่ข้อมูลสู่ประชาชนได้รวดเร็วและเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า สื่อในด้านอื่น ข่าวที่นิยมในการเขียนบล็อกต่อสื่อมวลชน ส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะเรื่องซุบซิบวงการดารา ข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นต้น
จากความนิยมที่มากขึ้น ทำให้หลายเว็บไซต์เปิดให้มีส่วนการใช้งานบล็อกเพิ่มขึ้นมาในเว็บของตนเอง เพื่อเรียกให้มีการเข้าสู่เว็บไซต์มากขึ้นทั้งผู้เขียนและผู้อ่าน
สังคมบล็อก
สังคมบล็อก หมายถึง พื้นที่บนอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ที่ต้องการนำเสนอบทความ สามารถแบ่งบัน เรื่องราว รูปภาพ รูปถ่าย อันส่งผลประโยชน์ แกผู้เข้ารับชม อันนี้คือสิ่งที่จำกัดความหมายของสังคมบล็อก ตั้งเป้าหมายไว้ โดยผู้ใช้ สามารถที่จะหา ผลประโยชน์จาก บทความที่ตนเอง เป็นผู้นำเสนอ โดยอาจจะมีการ นำเสนอโฆษณา พร้อมๆ กับการนำเสนอ บทความ แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้ อย่างอิสระ
อนึ่ง การใช้งานระบบสังคมบล็อก มีเนื้อหาของการนำเสนอ โดยจะต้องเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ ผู้นำเสนอ ระหว่างผู้ใช้งานด้วยกัน ไม่อาจจะทำการสำเนา เอกสารดังกล่าวได้ เพียงแต่สามารถทำการลิงก์เชื่อมโยง เพื่อส่งผลโดยตรงต่อผู้ใช้งานทั่วไป ให้สามารถใช้งานระบบได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
ผู้ให้บริการบล็อกที่เป็นที่รู้จัก
วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562
My first Blog
MY RESUME
ชื่อ นายชนน วาสิการ ชื่อเล่น มอส
อายุ 17 ปี
เกิดวันที่ 10 เมษายน 2545
กรุ๊ปเลือด A
กำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
ที่อยู่ 4 ซ.1 ถ.หลิ่งกอก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ 087 181 6215
บิดาชื่อ นายวิชัย วาสิการ
มารดาชื่อ นางนงนุช วาสิการ
Facebook: Chanon Wasikarn
My friends
ผมชอบรูปนี้เพราะเป็นการทัศนศึกษาที่เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทาง
My favorite photo
My favourite song
ชื่อ นายชนน วาสิการ ชื่อเล่น มอส
อายุ 17 ปี
เกิดวันที่ 10 เมษายน 2545
กรุ๊ปเลือด A
กำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
ที่อยู่ 4 ซ.1 ถ.หลิ่งกอก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ 087 181 6215
บิดาชื่อ นายวิชัย วาสิการ
มารดาชื่อ นางนงนุช วาสิการ
Facebook: Chanon Wasikarn
My friends
นายพัทธดนย์ ประสีรเตสังข์
นายโชคทรัพย์ แก้วสา
นายชนน วาสิการ
My class
ผมชอบรูปนี้เพราะเป็นการทัศนศึกษาที่เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทาง
โดยรถไฟ
My favorite photo
My favourite song
My family
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)